บางครั้ง เมื่อเราเติบโตขึ้นและมีความรับผิดชอบในการเป็นผู้ใหญ่ในโลกนี้ เราก็จะต้องดูแลเกือบทุกอย่างตั้งแต่การจ่ายค่าไฟฟ้า มิเตอร์อัจฉริยะ เป็นเครื่องมือหนึ่งจากหลายๆ เครื่องมือที่ใช้ตรวจสอบปริมาณพลังงานที่เราใช้ เครื่องวัดนี้มีประโยชน์มากเพราะสามารถบอกปริมาณการใช้พลังงานในบ้าน/บริษัทของเราได้ บทความนี้จะอธิบายว่าเครื่องวัดกิโลวัตต์ชั่วโมงคืออะไร ทำงานอย่างไร และเหตุใดจึงควรใช้เครื่องวัดนี้อย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้คุณต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเกินความจำเป็นเมื่อสิ้นเดือน
มิเตอร์วัดกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) คืออุปกรณ์เฉพาะทางที่ใช้วัดปริมาณพลังงานที่อาคารใช้ไปในช่วงเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปมิเตอร์จะตั้งอยู่ภายนอกอาคาร ดังนั้นจึงอาจเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟหลักของอาคารได้ มิเตอร์จะวัดการใช้ไฟฟ้าของเราเป็นหน่วยที่เรียกว่ากิโลวัตต์ชั่วโมงหรือ kWh วิธีนี้ช่วยให้เราสามารถจัดเรียงการใช้ไฟฟ้าและคำนวณค่าไฟฟ้าได้
การวัดกิโลวัตต์ชั่วโมงทำได้โดยการนับปริมาณไฟฟ้าที่ผ่านสายไฟที่ติดอยู่กับมิเตอร์ ไฟฟ้าที่ผ่านสายไฟจะทำให้แผ่นดิสก์ภายในมิเตอร์หมุน ยิ่งแผ่นดิสก์หมุนเร็วเท่าไร เราก็ใช้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น เครื่องปั่นไฟจะบอกมิเตอร์ว่าแผ่นดิสก์หมุนกี่ครั้งแล้ว และใช้ข้อมูลนั้นในการคำนวณพลังงานที่ใช้ไป ด้วยวิธีนี้ เราจะทราบได้ว่าเราได้รับพลังงานเท่าไร【TC】【028】
มิเตอร์ไฟฟ้าแบบกิโลวัตต์ชั่วโมงมีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้เราจัดการค่าไฟฟ้าได้ดี เมื่อเรารู้ว่าเราใช้พลังงานไปเท่าไร เราก็จะรู้ว่าต้องใช้เงินไปเท่าไร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทราบ เพราะช่วยให้เราตัดสินใจใช้พลังงานได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น นอกจากนี้ หากเราตระหนักว่าเราใช้พลังงานมากเกินไป เราก็สามารถลดการใช้พลังงานลงได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินและรับผิดชอบต่อการใช้พลังงานของเรา
การเลือก มิเตอร์ไฟฟ้า ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ การเลือกมิเตอร์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับการวัดที่แม่นยำและการเรียกเก็บเงินที่ถูกต้อง ดังนั้น จึงสามารถอ่านมิเตอร์กิโลวัตต์ชั่วโมงประเภทต่างๆ ได้มากมาย หากคุณต้องการมิเตอร์ ให้พิจารณาขนาดบ้านหรือธุรกิจของคุณ ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า และความต้องการการใช้พลังงานเฉลี่ยเมื่อเลือก ซึ่งจะช่วยในการเลือกมิเตอร์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ
ลงทุนกับฮาร์ดแวร์ที่ประหยัดพลังงาน: นอกจากหลอดไฟประหยัดพลังงานแล้ว ยังมีตัวเลือกพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่จะช่วยประหยัดเงินค่าไฟได้ มองหาฉลาก Energy Star ซึ่งระบุถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานน้อยลงและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ปิดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้า: อย่าลืมปิดไฟและถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้เสมอ นี่เป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณประหยัดไฟได้มาก และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากอีกด้วย